26 กุมภาพันธ์ 2564 จากการคาดการณ์พื้นที่เสี่ยงภาวะน้ำแล้งในปี 2564 รัฐบาลมีความห่วงใยประชาชน พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ และนายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้กำชับให้ทุกหน่วยงานที่มีภารกิจเกี่ยวข้องดำเนินการช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน กรมทรัพยากรน้ำ โดยนายภาดล ถาวรกฤชรัตน์ อธิบดีฯ ลงพื้นที่ติดตามการดำเนินงานสูบน้ำให้กับประชาชนในพื้นที่เสี่ยงขาดแคลนน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภคและพื้นที่การเกษตรในพื้นที่จังหวัดสระบุรี และปทุมธานี ซึ่งนายพิสิทธิ์ ทิพย์โอสถ ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรน้ำภาค 2 และนายโกเมศ พุทธสอน ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดสระบุรี ได้บูรณาการร่วมกับจังหวัด และหน่วยงานต่างๆ เร่งช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนจากปัญหาภาวะน้ำแล้ง โดยได้เริ่มการสูบน้ำตั้งแต่วันที่ 25 มกราคม 2564 จนถึงปัจจุบัน ปริมาณการสูบน้ำรวมอยู่ที่ 1,976,400 ลูกบาศก์เมตร มีพื้นที่ได้รับประโยชน์ 6 ตำบลได้แก่ ต.นพรัตน์ ต.บึงกาสาม ต.บึงบา ต.หนองสามวัง ต.ศาลาครุ อ.หนองเสือ จ.ปทุมธานี และต.หนองโรง อ.หนองแค จ.สระบุรี ประชาชนได้รับประโยชน์ 4,228 ครัวเรือน ประชากร 16,900 คน ครอบคลุมพื้นที่เกษตรกว่า 26,319 ไร่ และช่วยเหลือระบบประปาหมู่บ้าน 2 แห่ง นายภาดล ถาวรกฤชรัตน์ อธิบดีฯ เปิดเผยว่า กรมทรัพยากรน้ำได้เตรียมพร้อมรับมือภัยแล้ง ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2563 ที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน (26 กุมภาพันธ์ 2564) โดยมอบหมายให้สำนักงานทรัพยากรน้ำภาค 1-11 ทั่วประเทศ จัดหาแหล่งน้ำแหล่งน้ำต้นทุน และสนับสนุนเครื่องสูบน้ำ เติมน้ำให้ประชาชนในพื้นที่เพื่อใช้น้ำในการเกษตรเลี้ยงชีพ การอุปโภคบริโภค รวมถึงเป็นแหล่งน้ำดิบสำหรับทำน้ำประปาในบางพื้นที่ โดยที่ผ่านมากรมทรัพยากรน้ำสนับสนุนเครื่องสูบน้ำจำนวน 68 เครื่อง สูบน้ำช่วยประชาชนแล้วกว่า 17.83 ล้าน ลูกบาศก์เมตร พื้นที่ที่ได้รับประโยชน์ 129,426 ไร่ ประชาชนได้รับประโยชน์ กว่า 351,463 ครัวเรือน (ประมาณ 1,090,000 คน) นอกจากนี้กรมทรัพยากรน้ำได้ดำเนินการสนับสนุนน้ำดื่มสะอาดบรรจุขวดไปแล้วกว่า 8,632 ขวด นายพิสิทธิ์ ทิพย์โอสถ ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรน้ำภาค 2 ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า กรมทรัพยากรน้ำได้ช่วยเหลือประชาชนที่ประสบปัญหาภัยแล้งในพื้นที่ภาคกลางที่อยู่ในความรับผิดชอบของสำนักงานภาค 2 มาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2563 จนถึงปัจจุบัน ได้สนับสนุนเครื่องสูบน้ำหลากหลายขนาดช่วยสูบน้ำ เติมแหล่งน้ำต้นทุนให้ประชาชนในพื้นที่ โดยสูบน้ำรวมแล้วกว่า 6,784,560 ล้านลูกบาศก์เมตร ช่วยเหลือประชาชนกว่า 281 หมู่บ้าน 52,551 ครัวเรือน (209,968 คน) ในพื้นที่ 51,464 ไร่ ได้รับประโยชน์