กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยนายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีฯ มีความห่วงใยประชาชน ได้มอบหมายหน่วยงานภายใต้กำกับของกระทรวงฯ เร่งเพิ่มน้ำต้นทุนให้กับประชาชน ในพื้นที่เสี่ยงต่อการขาดแคลนน้ำ ซึ่งกรมทรัพยากรน้ำได้ดำเนินการสำรวจแหล่งน้ำต้นทุน พร้อมทั้งพัฒนาแอพพลิเคชั่นในการสำรวจให้มีความทันสมัย 23 กุมภาพันธ์ 2564 นายภาดล ถาวรกฤชรัตน์ อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำ เป็นประธานเปิดโครงการ การศึกษา ประเมินศักยภาพ และพัฒนาระบบตรวจวัดปริมาณน้ำในพื้นที่นอกเขตชลประทาน ที่กรมทรัพยากรน้ำได้จัดตั้งขึ้นโดยได้ทำการคัดเลือกแหล่งน้ำในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือจำนวน 80 แห่ง มาทำการสำรวจเพื่อประเมินความจุเก็บกักที่แท้จริง พร้อมทั้งติดตั้งอุปกรณ์ตรวจวัดระดับน้ำ เพื่อให้ทราบถึงปริมาณน้ำทุนที่มีอยู่ในแต่ละช่วงเวลา โครงการดังกล่าวเป็นการเสริมความเข้มแข็งของเครือข่ายภาคประชาชนในพื้นที่ให้เป็นกำลังสำคัญในการรายงานระดับน้ำจากอุปกรณ์ที่ติดตั้งไว้ในพื้นที่แหล่งน้ำแต่ละแห่ง โดยการรายงานนั้นจะดำเนินการผ่านทางระบบ Mobile Application ที่พัฒนาไว้ ซึ่งการดำเนินงานในส่วนนี้นอกจากภาครัฐจะได้ข้อมูลปริมาณน้ำต้นทุนที่คงเหลือสำหรับนำมาวางแผนการจัดการน้ำแล้ว ยังเป็นการสร้างการมีส่วนร่วมของภาคประชาชนในการจัดการทรัพยากรน้ำร่วมกันอีกด้วย นายมงคล หลักเมือง ผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันวิกฤติ ได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า เพื่อให้การจัดการน้ำในพื้นที่ขาดแคลนน้ำเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยกรมทรัพยากรน้ำได้ศึกษา ประเมินศักยภาพ และพัฒนาระบบตรวจวัดปริมาณเก็บกักน้ำในแหล่งน้ำขนาดเล็ก เพื่อการพัฒนาแนวความคิด นำบัญชีน้ำมาประยุกต์ใช้กับแหล่งน้ำระดับตำบล ช่วยให้หน่วยงานภาครัฐสามารถประเมิณปริมาณน้ำที่มีในปัจจุบันและปริมาณที่คาดว่าจะขาดแคลนในแต่ละช่วงเวลาได้อย่างแม่นยำและมีประสิทธิภาพ ทำให้การเข้าช่วยเหลือประชาชนของหน่วยงานภาครัฐรวดเร็วและมีการแก้ปัญหาน้ำที่ดียิ่งขึ้นไป ซึ่งปัจจุบันจากการสำรวจแหล่งกักเก็บน้ำขนาดกลางของกรมทรัพยากรน้ำ ในพื้นที่ตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน พบว่ามีปริมาณน้ำที่สามารถสนับสนุนน้ำต้นทุนเพื่อช่วยเหลือภาวะภัยแล้งในพื้นที่ได้อีกประมาณ 30.3 ล้านลูกบาศก์เมตร