"บุรีรัมย์ตำน้ำกิน" เป็นคำพังเพยในอดีตที่อยู่ในความทรงจำและความภาคภูมิใจของชาวบุรีรัมย์ แสดงถึงความยากลำบากและทรหดอดทนของบรรพบุรุษที่ได้ใช้ภูมิปัญญาในการบุกเบิกแผ่นดิน นำความรู้เกี่ยวกับธรรมชาติมาใช้แก้ปัญหาการขาดแคลนน้ำได้อย่างชาญฉลาด ยังประโยชน์ตกทอดแก่ลูกหลาน แต่ ณ ปัจจุบันภาวะเรื่องน้ำของจังหวัดบุรีรัมย์ได้เปลี่ยนแปลงไปมาก เนื่องจากมีหลายหน่วยงานนำโครงการเข้ามาพัฒนาระบบการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ
สำนักงานทรัพยากรน้ำภาค 5 กรมทรัพยากรน้ำ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นหน่วยงานหนึ่งที่ได้เข้าไปพัฒนาแหล่งน้ำในพื้นที่ชุ่มน้ำหนองทัพค่ายตามคำร้องขอของประชาชนในพื้นที่ให้ช่วยพัฒนาแหล่งน้ำ อย่างไรก็ตามที่ผ่านมาการดำเนินโครงการอนุรักษ์ฟื้นฟูแหล่งน้ำของ กรมทรัพยากรน้ำ พื้นที่แหล่งน้ำส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่ต่ำ การนำน้ำมาใช้ประโยชน์จึงยังได้ไม่เต็มศักยภาพ
การดำเนินโครงการก่อสร้างระบบกระจายน้ำด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ จึงเป็นการช่วยให้เกษตรกรสามารถนำน้ำมาใช้ประโยชน์ในพื้นที่การเกษตรได้อย่างมีประสิทธิภาพ สทภ.5 จึงได้ต่อยอดโครงการก่อสร้างระบบกระจายน้ำด้วยพลังงานแสงอาทิตย์พื้นที่ชุ่มน้ำหนองทัพค่าย บ้านค้อ หมู่ที่ 5 ตำบลทุ่งวัง อำเภอสตึก จังหวัดบุรีรัมย์ เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่แหล่งน้ำได้ใช้ประโยชน์จากแหล่งน้ำเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนด้านน้ำอุปโภค-บริโภค และน้ำเพื่อการเกษตร ในการทำนา ปลูกพืชผัก พริก มะเขือ และช่วยให้ระบบนิเวศน์บริเวณแหล่งน้ำมีความอุดมสมบูรณ์ สร้างรายได้ ให้ราษฎรได้มีแหล่งอาหารและรายได้มาจุนเจือครอบครัวกว่าร้อยครัวเรือน พื้นที่การเกษตรได้รับประโยชน์กว่า 50 ไร่ ซึ่งหลักเกณฑ์การก่อสร้างระบบกระจายน้ำแหล่งน้ำจะต้องมีความจุไม่ต่ำกว่า 30,000 ลบ.ม. รูปแบบการดำเนินโครงการจะเป็นการสูบน้ำด้วยแผงเซลล์แสงอาทิตย์ (Solar cell) เข้าหอถังสูง และสูบน้ำผ่านท่อส่งน้ำ ส่งไปยังแปลงเกษตรพืชผักสวนครัว พืชเศรษฐกิจ ใช้น้ำน้อย นอกเขตพื้นที่ชลประทานในช่วงฤดูแล้ง เพื่อช่วยลดต้นทุนและเพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกร
โครงการก่อสร้างระบบกระจายน้ำพื้นที่ชุ่มน้ำหนองทัพค่าย บ้านค้อ หมู่ที่ 5 เมื่อดำเนินการแล้วเสร็จ จะช่วยให้เกษตรกรในพื้นที่มีรายได้เพิ่มขึ้น 32,000 บาทต่อปี นอกจากนี้โครงการดังกล่าว ยังสามารถต่อยอดระบบประปาหมู่บ้านหากมีปริมาณกักเก็บน้ำเพียงพอ ทั้งนี้โครงการก่อสร้างยังต้องมีการดำเนินการจัดตั้งกลุ่มผู้ใช้น้ำเพื่อช่วยกันดูแลและบำรุงรักษาอุปกรณ์ต่างๆ ให้พร้อมใช้งานอยู่เสมอเพื่อความยั่งยืนต่อไป